50th-anniversary-charnpaiboon


ชาญไพบูลย์ 50 ปี แห่งการทุ่มเทเพื่อวงการสุขภัณฑ์ในประเทศไทย 

 

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว บริษัท ชาญไพบูลย์ เทรดดิ้ง (1972) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2515 โดย คุณชาญชัย ชาญชนาไพบูลย์ ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากเห็นคนไทยได้ใช้สุขภัณฑ์มาตรฐานระดับสากล

และแม้จะเริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจภายในครอบครัว มีสำนักงานเล็กๆ อยู่ที่ซอยสว่าง ย่านหัวลำโพง แต่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ความรู้เกี่ยวกับสุขภัณฑ์ และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาทั้งรูปแบบและเทคโนโลยี ชาญไพบูลย์จึงค่อยๆ เติบโต จนเป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมสุขภัณฑ์ของประเทศไทย

ปัจจุบัน ชาญไพบูลย์เป็นผู้นำเข้าสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งห้องน้ำ มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ และในปีที่ 50 ชาญไพบูลย์จะยังคงอยู่คู่ห้องน้ำทุกบ้าน ทุกอาคาร และยังคงเดินหน้าทั้งเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การออกแบบ เทคโนโลยี รวมไปถึงงานบริการหลังการขาย ที่เรายึดมั่นเพื่อลูกค้ามาโดยตลอด

 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาญไพบูลย์และสินค้าในเครือติดตามได้ที่
WEBSITE – www.charnpaiboon.com
FACEBOOK PAGE –  facebook.com/charnpaiboongroup
LINE OFFICIAL ACCOUNT – @Rasland
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2285-5795

RELATED STORY

charnpaiboon-brand-journey

50 ปี ชาญไพบูลย์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าสุขภัณฑ์คุณภาพสูงในประเทศไทย

บริษัท ชาญไพบูลย์เทรดดิ้ง (1972) จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่อยากให้คนไทยได้ใช้สินค้าสุขภัณฑ์ที่มีคุณภาพ โดยเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายก๊อกน้ำจากยุโรป ในยุคบุกเบิกของวงการอุตสาหกรรมสุขภัณฑ์ในประเทศไทย

CharnPaiboon

ก้าวแรกของชาญไพบูลย์ เริ่มต้นจากแฟกซ์ และส่งสินค้าด้วยรถเวสป้า

ชาญไพบูลย์ มีหน้าร้านแห่งแรกที่ซอยสว่าง 1 ถนนมหาพฤฒาราม (หัวลำโพง) โดยช่วงแรกคุณชาญชัยรับบทบาททั้งเจ้าของบริษัท พนักงานขาย และพนักงานส่งสินค้า

charnpaiboon-key-to-success

ชาญไพบูลย์ กับเคล็ดลับความสำเร็จในธุรกิจสุขภัณฑ์

เคล็ดลับความสำเร็จของชาญไพบูลย์ ‘การบริการแบบวัยรุ่น’ ซึ่งเป็นมิชชั่นในด้านบริการของบริษัท ได้แก่ ความรวดเร็ว กระฉับกระเฉง และทันสมัย

the-second-generation

เรื่องเล่าจาก วิล ชาญชนาไพบูลย์ ทายาทรุ่น 2 ของชาญไพบูลย์

นับตั้งแต่ชาญไพบูลย์ก่อตั้งในปี 1972 จจนเป็นที่รู้จักของวงการอุตสาหกรรมสุขภัณฑ์ในประเทศไทย จนมาถึงช่วงปี 2000 วิล ชาญชนาไพบูลย์ ซึ่งเป็นลูกชาย ก็เข้ามาสานต่อกิจการในเจเนอเรชั่นที่ 2 เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของชาญไพบูลย์ให้เดินหน้าต่อไป