“ฟูลเฮ้าส์เริ่มต้นจากร้านขายกระจกอลูมิเนียมเล็กๆ ขนาด 1 ห้องแถว ที่จังหวัดร้อยเอ็ดค่ะ”

คุณยุ้ย-เกศรินทร์ คำมะยอม ย้อนเล่าถึงกิจการของคุณพ่อคุณแม่ ที่เริ่มนับหนึ่งเมื่อปี 2540 ในชื่อ ‘นิรันดร์การกระจก’ ก่อนจะเพิ่มหมวดสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง จากนั้นคุณยุ้ยจึงก้าวเข้ามาต่อยอดทำโรงงานหลังคาเหล็กในปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจโมเดิร์นเทรดเริ่มถูกพูดถึงในวงกว้าง

“ธุรกิจของเราค่อยๆ เติบโตทีละก้าว จนวันหนึ่งที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย คนชอบซื้อของครบจบในที่เดียว เราจึงพัฒนาร้านค้าให้เป็นแบบโมเดิร์นเทรด มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ รวมทั้งเพิ่มสินค้าในกลุ่มตกแต่งบ้าน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย

“ร้านของเราอยู่ในอำเภอโพนทอง ถือว่าอยู่ไกลจากอำเภอเมืองพอสมควรค่ะ แต่ยุ้ยมองว่าที่นี่ยังมีโอกาสเติบโตอีกเยอะ ถึงแม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ในรัศมี 30 กิโลเมตร ยังมีอำเภอขนาดกลางและขนาดใหญ่อยู่รายรอบ เป้าหมายของเราคือ ดึงลูกค้าที่อยู่รอบนอกเหล่านั้นมาที่ฟูลเฮ้าส์

“พูดถึงชื่อร้าน ยุ้ยตั้งโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นชื่อของซีรีส์เกาหลี มารู้ตอนมีลูกค้าทักนี่ล่ะ และที่เลือกชื่อนี้เพราะให้ความหมายของบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก รวมถึงการเติมเต็มทุกความต้องการในเรื่องของบ้านให้กับลูกค้าด้วย”

“ฟูลเฮ้าส์เปิดบริการช่วงสิ้นปี 2557 เราสร้างอาคารขนาด 4,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นทั้งร้านค้าและโกดังเก็บของอยู่ด้วยกัน ลักษณะคล้ายๆ เอาท์เล็ต หรือตลาดนัดวัสดุก่อสร้างเล็กๆ พอนานวันเข้าลูกค้าก็ให้การตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ เราจึงค่อยๆ ขยายพื้นที่ออกไป จนวันนี้มีพื้นที่รวมกว่า 20,000 ตารางเมตร

“ต้องบอกว่าบรรยากาศของฟูลเฮ้าส์ยังมีเสน่ห์ของท้องถิ่นอยู่พอสมควร ถึงแม้ในเรื่องราคาและการให้บริการจะได้มาตรฐานโมเดิร์นเทรด แต่ก็ไม่ได้ธุรกิจจ๋าจนต่อรองอะไรไม่ได้เลย เรายังรักษากลิ่นอายของร้านค้าท้องถิ่น ที่คนซื้อกับคนขายจะมีความเป็นกันเองเหมือนพี่น้อง คุณป้า หรือคุณอาที่พูดคุยกันได้ มีความยืดหยุ่นสูง นี่คือสิ่งที่ทำให้ฟูลเฮ้าส์แตกต่างจากที่อื่น

“ในขณะที่ลูกค้าก็น่ารักมาก อย่างเวลาเราจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เชื่อไหมว่ามีลูกค้ารู้สึกเกรงใจที่จะรับของแถมกลับบ้าน และบอกว่าลดราคาให้เยอะแล้วค่า พนักงานเราได้รับฟีดแบ็กแบบนี้เยอะมากๆ (ยิ้ม)”

“ชาญไพบูลย์คือซับพลายเออร์เจ้าแรกของฟูลเฮ้าส์ บูธแรกในร้านของเราก็คือชาญไพบูลย์นี่ล่ะ (ยิ้ม) ต้องบอกว่าตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ทีมเซลส์ของชาญไพบูลย์ไม่ได้เข้ามาคุยแบบคู่ค้าอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนเพื่อนที่ช่วยให้คำแนะนำดีๆ จะบอกว่าชาญไพบูลย์คือเพื่อนที่ช่วยก่อตั้งฟูลเฮ้าส์ขึ้นมาเลยก็ได้

“ร้านของเรามีสินค้าของชาญไพบูลย์ครบทุกหมวด และจัดโปรโมชั่นร่วมกันอยู่เป็นประจำ ที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์ของชาญไพบูลย์มีคุณภาพและดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้ได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากลูกค้าอยู่ตลอดค่ะ”

คุณยุ้ยเล่าถึงแผนการตลาดของฟูลเฮ้าส์ “เราให้ความสำคัญกับหลักการ Omni Channel ที่มุ่งหน้าการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่หลากหลาย โดยเชื่อมโยงทุกช่องทางต่างๆ เป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของเราได้ อย่างในปัจจุบันนี้ นอกจากมีหน้าร้านและเว็บไซต์ที่เป็นฮับ เราจะสื่อสารกับลูกค้าผ่านทาง Facebook, LINE OA รวมถึง TikTok ด้วย”

“นอกจากนี้ยุ้ยใช้หลักบริหารแบบ Customer Centric ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าการแข่งขันในธุรกิจจะรุนแรงแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร สินค้าและบริการของเราต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่ม เพื่อทำให้ฟูลเฮ้าส์เป็น Top of Mind หรือแบรนด์ด้านวัสดุก่อสร้างที่อยู่ในใจของลูกค้าในพื้นที่ของเราให้ได้

“ยุ้ยมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำธุรกิจนี้ แน่นอนว่ายอดขายเป็นส่วนสำคัญ แต่อีกด้านก็คือการได้เป็นตัวกลางในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ดีๆ ให้กับลูกค้า เนื่องจากในวงการวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน มีของหลายเกรดอยู่ในตลาด แต่ฟูลเฮ้าส์จะเลือกเฉพาะแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขายที่ดี นี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก เพราะเมื่อพูดถึง ‘บ้าน’ ถือเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของทุกคน เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอสินค้าที่ดี และช่วยลูกค้าแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านได้ เหมือนกับความหมายของชื่อ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ที่เราตั้งใจไว้”

ฟูลเฮ้าส์สโตร์

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 น.

โทร. 043-571-666, 093-415-1177