3 ข้อต้องรู้ เลือก ‘สายฉีดชำระ’ ให้เหมาะกับห้องน้ำ ทนทาน และมีคุณภาพ
เคยสงสัยไหม ทำไม ‘สายฉีดชำระ’ ถึงเป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำที่มีปัญหาบ่อยเป็นอันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำรั่วซึมบ้าง ก้านกดหักหรือค้าง ระดับความแรงของสายน้ำที่ควบคุมไม่ได้ หรือบางทีก็มีสนิมขึ้นแถวๆ หัวฉีดจนไม่อยากใช้ต่อ และต้องซื้อสายฉีดชำระอันใหม่มาเปลี่ยนวนไปเรื่อยๆ จะดีกว่าไหม ถ้าการเลือกซื้อสายฉีดชำระครั้งต่อไปจะไม่ทำให้คุณต้องเจอปัญหากวนใจเหล่านั้นอีก เพราะจริงๆ แล้วถ้าเราเลือกซื้ออย่างมีเทคนิค ก็จะสามารถหาสายฉีดชำระที่เหมาะกับห้องน้ำที่บ้าน แล้วมีฟังก์ชันและคุณสมบัติที่ตรงใจด้วย คราวนี้จะเปลี่ยนทั้งทีก็ต้องดีที่สุดไปเลย! Rasland มีเทคนิค 5 ข้อที่ต้องรู้มาฝากกัน
1. วัสดุที่มีคุณภาพ
เวลาไปเลือกซื้อสายฉีดชำระก็จะพบว่ามีหลายช่วงราคาตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงราคาสูงหลักพัน ซึ่งเหตุผลก็มาจากวัสดุหลักของสายฉีดชำระชิ้นนั้นๆ ที่จะมีคุณสมบัติและความทนทานต่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น
- พลาสติก โดยส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก ABS โดยสายฉีดชำระที่ทำจากวัสดุชนิดนี้จะมีราคาที่จับต้องได้ น้ำหนักเบา แต่ข้อเสียคืออาจไม่ทนทานเท่าไรนัก ยิ่งถ้าทำตกพื้นบ่อยก็จะแตกหักและเกิดการรั่วซึมได้ง่าย ดูสินค้า สายฉีดชำระ วัสดุพลาสติก ABS จาก Rasland คลิก bit.ly/3ZvWxwE
- สแตนเลส เป็นวัสดุยอดนิยมที่คนมักจะเลือกใช้ เพราะนอกจากเหตุผลเรื่องความทนทานและไม่เป็นสนิมง่ายแล้ว ผิวสัมผัสที่เรียบและสีของวัสดุที่มีความเงายังให้ความรู้สึกหรูหราอีกด้วย ดูสินค้า สายฉีดชำระ วัสดุสแตนเลส จาก Rasland คลิก bit.ly/3t5rJGY
- ทองเหลือง เป็นวัสดุที่ค่อนข้างพรีเมียม คุณภาพสูง ทำให้ราคาของสายฉีดชำระที่ทำจากทองเหลืองนั้นจะแพงกว่าวัสดุอื่น แม้จะค่อนข้างมีน้ำหนักสักหน่อย แต่ข้อดีของมันก็มีอยู่หลายอย่าง เพราะขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงทนทานสูงสุด ไม่เป็นสนิม สามารถรองรับแรงดันน้ำได้สูง และทนความร้อนได้มากถึง 60 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ดูสินค้า สายฉีดชำระ วัสดุทองเหลือง จาก Rasland คลิก bit.ly/3EJ3yAH
2. รองรับแรงดันน้ำได้ดี
ด้วยคุณลักษณะของสายฉีดชำระที่มีการใช้ตัวฉีดเพื่อดันน้ำให้พุ่งออกมา ดังนั้นตัวสายและหัวฉีดก็จะต้องสามารถรองรับแรงดันน้ำได้ดีตามไปด้วย เพราะถ้าหากแรงดันน้ำสูงเกินกว่าที่วัสดุจะรองรับได้ เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งมันก็อาจจะเสียและต้องเปลี่ยนใหม่อีกเรื่อยๆ
แต่สำหรับบางคน การที่จะรู้ระดับแรงดันน้ำของบ้านตัวเองอาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจยากไปสักหน่อย แต่ไม่ต้องห่วง เพราะ Rasland มีเทคนิคสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานของสายฉีดชำระมาฝาก
ในการใช้งานสายฉีดชำระ แน่นอนว่าความแรงของสายน้ำที่แต่ละคนต้องการก็แตกต่างกัน บางคนอยากได้น้ำอ่อนละมุน แต่ถ้ากดก้านจนสุดก็จะได้สายน้ำที่แรงเกินไป จึงใช้วิธีกดแค่ครึ่งเดียว ซึ่งผิด! เพราะมันจะเกิดแรงต้านระหว่างแรงดันน้ำกับตัวอุปกรณ์ และปัญหารั่วซึมก็จะตามมา
วิธีการคือ เมื่อเปลี่ยนสายฉีดชำระอันใหม่เรียบร้อยแล้ว (หรือจะเป็นอันปัจจุบันที่ใช้อยู่ก็ได้) ให้เริ่มจากการปรับระดับน้ำที่สต็อปวาล์ว ลองทดสอบด้วยการกดก้านฉีดจนสุด ให้ลองปรับระดับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ความแรงของสายน้ำที่พอใจ แล้วเวลาใช้งานสายฉีดชำระก็ให้กดก้านให้สุด ไม่กดครึ่งเดียว ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานของสายฉีดชำระได้แล้ว
3. ดีไซน์ที่ตอบโจทย์
ปัจจุบันนี้วงการสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำพัฒนาไปไกลมาก ทำให้เราได้เห็นดีไซน์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีขึ้น แถมยังแก้เพนพอยต์บางอย่างได้อย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
ขอแนะนำ!! สายฉีดชำระรุ่นล่าสุดที่ Rasland ภูมิใจนำเสนอ นั่นก็คือ RA DOUBLE-ACTION มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่คิดมาแล้วว่าตอบโจทย์อย่างแน่นอน
- ปุ่มกดด้านหน้า สะดวกมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนจากก้านกดด้านหลังเป็นปุ่มกดด้านหน้า เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
- สายน้ำสองระบบ หมดปัญหาเรื่องน้ำอ่อนหรือแรงเกินไป เพราะสายฉีดชำระรุ่นนี้เลือกได้เลยว่า อยากได้สายน้ำแบบพลังสูงหรือฟองนุ่มฟู โดยระบบน้ำแรงจะอยู่โดยรอบปากฉีด และระบบน้ำฟองอากาศจะอยู่ตรงกลาง
- น้ำหนักเบา แต่ทนทาน เพราะตัววัสดุทำจากพลาสติก ABS เหนียว แข็งแรง ทนทาน เคลือบด้วยสีโครเมียมเงางาม ทำให้ดูหรูหราราคาแพงมากขึ้น
- รับประกันไม่รั่วซึม 1 ปี ถ้ามีอาการ เราเปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย!
